“ต้าร์” แจงโวยเรื่องรถติดตามหลักเศรษฐศาสตร์ ใครไม่พอใจก็ไปเข้าวัดซะ
“นาวิน ต้าร์” เผยโพสต์ระบายปัญหารถติดในอินสตาแกรมเพราะอยากให้ทุกคนคิดถึงประโยชน์ส่วน รวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ใครที่ไม่พอใจรับไม่ได้ก็ให้ไปเข้าวัดเข้าวาซะ ลั่นวิจารณ์ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ ปัดออกงานคู่ “แก้ว ซาซ่า” ทำใจได้แล้วพร้อมเผชิญหน้า “พลอย เฌอมาลย์” รับยังไม่ลืมอดีต
งานเข้าทันทีเมื่อ “นาวิน ต้าร์” ดร.นาวิน เยาวพลกุล อาจารย์นักแสดงหนุ่ม ได้โพสต์รูปการจราจรบนท้องถนนในกรุงเทพฯ พร้อมข้อความถึงปัญหารถติดและระเบียบวินัยของคนกรุง โดยเฉพาะปัญหาการจอดตามใจชอบของแท็กซี่และรถตู้โดยสาร โดยโพสต์ข้อความว่า
“(ได้รูปนี้มาจากคุณพ่อ ไม่รู้จะลงเครดิตให้ใครดีนะครับ) เวลาที่รถติด มันไม่มีใครอยากให้ติดหรอกครับ เพียงแต่ระบบจราจรที่เรามี มันไม่ช่วยให้คนที่เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตนมาใช้ถนนร่วมกันให้เกิดประโยชน์แก่ ส่วนรวมได้ แน่ละที่พวกเราคนใช้ท้องถนนต้องช่วยกัน แต่แค่ช่วยกันมันไม่พอครับถ้าระบบไม่ดีอย่างที่เห็นนี่ เพราะแท็กซี่จอดที่ไหนก็ได้ รถเมล์เลยไม่ได้วิ่งเลนซ้าย แถมยังมีรถตู้โดยสารมาช่วยขวางทางอีก yes...Thailand Only !!"
ทำให้เกิดการวิจารณ์ต่างๆ นานามากมายว่าต้าร์อยู่ข้างใครหรือไม่ งานนี้เจ้าตัวเผยที่ระบายออกมาเพราะอยากให้ทุกคนคิดถึงประโยชน์ส่วนร่วม มากกว่าประโยชน์ส่วนตัวบ้าง
“บางคนเห็นรูปแล้วอาจจะโมโหว่าทำไมเมืองไทยเป็นอย่างนี้ บางคนเห็นแล้วอาจจะคิดว่าทำไมเราไม่แก้ปัญหานี้สักที เหตุการณ์แบบนี้มันสร้างอารมณ์และความรู้สึกให้แก่พวกเรา ใครเห็นภาพนี้แล้วตีความอย่างไรก็แล้วแต่เขา ซึ่งผมพอเห็นภาพนี้แล้วสิ่งที่ผมอยากบอกคือ อยากให้ทุกคนเห็นแก่ ประโยชน์ส่วนรวม คิดว่าหลายคนน่าจะได้แง่มุมอะไรกลับไปคิด ฝากให้ลองไปคิดกันเองแล้วกัน ผมมองว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดนะถ้าใครจะเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองก่อน มันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์อยู่แล้วที่ต้องเอาตัวให้รอด ถ้าทุกคนคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมก่อนสังคมยังไม่รอดเลย ก็แค่อยากให้ออกมาแก้ปัญหาเท่านั้น”
“ถ้าการวิพากษ์วิจารณ์ของผมจะทำให้คนบางกลุ่มไม่พอใจล่ะ ก็....จริงๆ แล้วผมจะทำอะไรก็ต้องไตร่ตรองก่อน ผมไม่เคยติสต์แตก คนที่หลุดผมว่าน่าจะเป็นเพราะเขาหลุดเองมากว่า เราไม่ได้มีเจตนาจะปลุกกระแสใดๆ ทั้งสิ้น ผมตกใจเหมือนกันที่ลงในข่าวหนังสือพิมพ์ตั้งเยอะ มันเป็นภาพในอินสตาแกรมที่ผมเห็นมาแล้วนำมาแชร์เท่านั้นเอง ดังนั้นใครจะคิดอย่างไรผมมองว่าแล้วแต่คนจะตีความก็แล้วกัน ถ้าโมโหแล้วควบคุมไม่ได้ผมก็แนะนำให้ไปเข้าวัดเข้าวาซะ เราก็พูดใน มุมของเรา สำหรับผมในฐานะนักเศรษฐศาสตร์เข้าใจเรื่องผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวมได้ดี เพราะเศรษฐศาสตร์เป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับแรงจูงใจของคน มันเป็นอย่างนี้เสมอ เมื่อไหร่ที่ระบบมันล้มเหลว วิธีแก้ไขไม่ใช่ทุกคนที่ต้องแก้ไข ผมมองว่าน่าจะเป็นฝ่ายกทม. ฝ่ายรัฐบาลมากกว่าที่ต้องแก้ไข ซึ่งพวกเราทุกคนน่าจะมองเห็นปัญหา”
ปัดออกงานคู่สาว “แก้ว จรีนา สิริสิงห์” ทำใจได้แล้วจะไม่หนีอดีตแฟนสาว “พลอย เฌอมาลย์ บุญศักดิ์” อีก รับยังไม่ลืมอดีต และยังไม่พร้อมมีแฟนใหม่
“ไม่ได้นัดกันมา ไม่ได้มาด้วยกันหรือตั้งใจออกงานด้วยกัน แต่งานนี้เป็นงานที่แก้วเป็นคนจัด แล้วเขาก็สนิทกับคุณชานนท์ ผมเองก็รู้จักกับเจ้าของงานวันนี้เลยมาให้กำลังใจเขา เราก็เป็นคนรู้จักกันมีอะไรก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเท่านั้นเอง ผมกับแก้วหลังจบคอนเสิร์ตก็ยังเจอกันตลอด มีนัดเจอกัน ทานข้าวด้วยกันบ้าง ก็ไม่ถึงขนาดไปไหนสองต่อสองเพราะผมไม่ซีเรียสขนาดนั้น ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกัน ตัวผมรู้สึกว่าควรจะให้เวลากับตัวเองสักนิดหนึ่งดีกว่า ยังไม่อยากรักใคร หรือคบกับใครขอเวลาอีกสักพันหนึ่งดีกว่า”
“งานนี้ก็พอทราบว่าพลอยจะมาด้วย แต่จะเป็นยังไงก็เป็น ผมไม่อยากต้องนิ่งหรือหนีอะไร เราก็พยายามทำทุกอย่างให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ถ้าพลอยต้องมางานไหนแล้วผมต้องหนี มันจะอยู่ร่วมโลกกันลำบากไหม เพราะเราคงต้องได้เจอกันอีกเยอะ เราก็ต้องพยายามใช้ชีวิตเป็นปกติสุขที่สุด สำหรับผมแล้วผมคงไม่มีทางลืมเขาหรอก ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผมขอมองและจำในสิ่งที่ดี เพราะของบางอย่างเราอยากจะลืมก็ลืมไม่ได้ ผมว่ามันขึ้นอยู่กับเรามากว่าว่าต้องการจำในลักษณะไหนถ้าเราจำให้ดีที่สุด มันก็ทำให้อดีตที่มันเป็นอดีตที่มีค่า และสร้างทางให้เราเดินต่อไปในอนาคตได้ ที่ผ่านมาผมกับเขาเราไม่ได้ติดต่อหรือคุยกันเลย ให้ผมเจอก็เจอกันได้ ตอนนั้นก็ต้องรอดู ผมมองว่าเราต้องทำให้ตัวเองเป็นคนที่เข้มแข็งก่อน ที่จะเอาความอ่อนแอของเราเป็นภาระให้ใคร ตอนนี้ผมก็สบายดี เอาเป็นว่าเมื่อไหร่ที่ผมพร้อมก็คงจะมีแฟนแล้วกันครับแต่ตอนนี้ยัง”
manager