นิตยสารไทม์เผย 10
อันดับสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ที่ยังไม่สูญพันธุ์ไปจากโลก
โดยเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า
การพบว่ามันยังมีตัวตนบนโลกใบนี้จะนำไปสู่ถิ่นกำเนิดของพวกมันที่ยังคงความ
สมบูรณ์เชิงนิเวศน์ให้แก่กลุ่มสิ่งมีชีวิต จะมีอะไรกันบ้าง ทีมงาน
toptenthailand ขอเสนอ "10 อันดับสัตว์ดึกดำบรรพ์
ที่ยังไม่สูญพันธุ์ไปจากโลก "
ที่มา : http://www.toptenthailand.com/topten/detail/20131126184302431
10. ช้างชวา (Javan Elephants )
ช้างชวาที่เชื่อว่าสูญพันธ์ไปแล้ว
แต่กลับถูกพบอีกครั้งหลังจากที่นักวิจัยพบว่า ช้างแคระบอร์เนียว (Borneo
Pygmy Elephant) จริงๆแล้วสืบสายพันธ์มาจากช้างชวา โดยรัฐสุลต่านซูลู
(ปัจจุบันอยู่ในฟิลิปปินส์)
ใช้สัตว์ชนิดนี้เป็นของรางวัลในการแลกเปลี่ยนในแถบเกาะบอร์เนียวมาหลายร้อย
ปี และถูกส่งไปทั่วเอเชียเป็นของขวัญระหว่างประเทศ
ซึ่งปัจจุบันคาดว่าจะเหลืออยู่เพียง 1,000 ตัว ในประเทศมาเลเซีย
9. จิงโจ้ขนาดเล็ก (Bridled Nailtail Wallaby)
จิงโจ้ขนาดเล็กที่มีลักษณะหางแหลม
และมีเส้นบังเหียนสีขาวบริเวณ หัว หัวไหล่ และหางของมัน
ซึ่งในอดีตอาศัยอยู่จำนวนมากในแถบตะวันออกของออสเตรเลีย
แต่ก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี 1937
มีการประกาศว่ามันสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ในปี 1973
ถูกพบอีกครั้งโดยคนรับจ้างรายหนึ่งในรัฐควีนส์แลนด์ ทั้งนี้
แม้ว่ามันจะถูกพบอีกครั้งแต่จำนวนประชากรของจิงโจ้ Wallaby ก็ยังคงมีไม่มาก
โดยสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าของรัฐควีนแลนด์ เชื่อว่ามันมีน้อยกว่า 1000 ตัว
ในรัฐแห่งนี้
8. กระรอกบิน (Woolly Flying Squirrel)
กระรอกบิน
แตกต่างจากกระรอกตัวอื่นโดยที่มันจะไม่ใช้วิธีการโผตัวไปข้างหน้า
แต่สามารถบินได้ด้วยปีกบางๆ เสมือนเป็นร่มชูชีพถ่วงน้ำหนักอยู่ในอากาศ
มีขนาด 5-12 นิ้ว มีหางที่มีลักษณะพุ่มขนาดใหญ่
เชื่อว่าสูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อ 70 ปี แต่มีการพบตัวมันอีกครั้งเมื่อปี 1995
ในทางตอนเหนือของปากีสถาน
7. ม้าแคสเปียน (Caspian Horse )
ม้าขนาดเล็ก
มีต้นกำเนิดจากทางตอนเหนือของประเทศอิหร่าน แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดเล็ก
แต่ก็ไม่ถูกจัดอยู่ในม้าพันธุ์เล็ก (pony)
เชื่อว่าเป็นม้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
เนื่องด้วยต้องต่อสู้กับสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่า
ทำให้ขนาดของมันเล็กลงเรื่อยๆ โดยมีการพบเห็นมันอีกครั้งในปี 1965
ใกล้กับทะเลแคสเปียน แต่ปัจจุบันพบน้อยมากในแถบอเมริกา ยุโรป นิวซีแลนด์
และสวิสเซอร์แลนด์
6. นกวอเชสเตอร์ ( Worcester’s Buttonquail )
โดยมีการพบเจ้านกชนิดนี้เมื่อปี 2009
ที่เขาลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากที่คิดว่ามันสูญพันธ์ไปแล้ว
เนื่องจากมีการซื้อขายมาเป็นอาหาร
และนกชนิดนี้ยังเคยถูกบันทึกโดยสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและ
ทรัพยากรธรรมชาติ ให้เป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่า
5. ตัวพิกมี่พอสซัมภูเขา (mountain pygmy possum)
เป็นสัตว์หายากในประเทศออสเตรเลีย
ที่มีการพบเมื่อปี 1966 ทั้งนี้
ต้องใช้อุโมงค์สำหรับเดินข้ามไปยังอีกฟากหนึ่งของสวนอนุรักษ์สัตว์
เพราะว่าเมื่อมีการสร้างถนนตัดผ่านสวนอนุรักษ์สัตว์แห่งนี้
พวกตัวพิกมี่พอสซัมที่เป็นเพศผู้จะถูกรถชนตายในตอนที่พวกมันวิ่งข้ามถนน
เพื่อไปหาพิกมีพอสซัมที่เป็นเพศเมียอยู่เสมอ จึงได้มีการสร้างอุโมงค์ลอดถนน
ปัจจุบันสัตว์หายากเหล่านี้สามารถใช้อุโมงค์นี้เดินลอดไปมาหากันได้อย่าง
ปลอดภัย
4. หนูคะยุ (Laotian rock rat)
เป็นหนูชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่บนเขาหินปูน
และคาดว่าสูญพันธุ์ไปเมื่อ 11 ล้านปีที่แล้ว
แต่นักวิทยาศาสตร์กลับพบโดยบังเอิญในตลาดสดเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศลาว
เมื่อปี 2005 ลักษณะของมันคล้ายกับหนูและกระรอกผสมกัน มีหางที่หนา
และมีขนสีเทา
3. ปลาดึกดำบรรพ์ ซีลาแคนท์
เมื่อมองแบบผิวเผินไม่ต่างจากปลาทั่วไป
แต่ลักษณะของมันมีหางทรงกระบอกที่ยาว
เป็นสัตว์ที่มีลักษณะแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะผ่านไปนานหลายร้อยล้านปี
โดยถือกำเนิดครั้งแรกบนโลกในยุคดีโวเนียนเมื่อ 400 ล้านปีก่อน
มันจึงเป็นสัตว์ที่มีชีวิตบนโลกก่อนไดโนเสาร์และสัตว์เลื้อยคลาน
มันว่ายน้ำไปข้างหน้าได้ ถอยหลังได้ หงายท้องได้
และว่ายตั้งฉากกับท้องน้ำเป็นเวลานานก็ได้โดยใช้ครีบกระพือน้ำ
ซึ่งมนุษย์เชื่อว่ามันสูญพันธ์ไปแล้ว 65 ล้านปี เนื่องจากถูกอุกกาบาตชนโลก
แต่มันก็สามารถสืบสายพันธุ์มาถึงปัจจุบัน ซึ่งมีการพบครั้งแรกเมื่อปี 1938
ที่แอฟริกาใต้ โดยปัจจุบันมีปลาชนิดนี้เหลือเพียง 200-300 ตัวเท่านั้น
และนั่นก็แสดงว่ามันเป็นสัตว์ที่กำลังจะสูญพันธุ์
2. ค่างแดร็กคูล่า
ทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้ศึกษาสิ่งมีชีวิตในป่า
ลึกของอินโดนีเซีย เดินทางสำรวจสัตว์ป่า
เพื่อเก็บภาพเสือดาวและลิงอุรังอุตัง
แต่เมื่อพวกเขานำภาพที่บันทึกมาดูอีกครั้งกลับพบค่างแดร็กคูล่า
ที่เชื่อว่าสูญพันธ์ไปเป็นเวลานาน
แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ายังเหลืออยู่จำนวนเท่าใด
ทั้งนี้สาเหตุมันมีชื่อว่า ค่างแดร็กคูล่า
เนื่องจากขนบริเวณคอที่ยื่นยาวออกมานั้น เหมือนปกเสื้อของเค้าร์ทแดร็กคูล่า
นั่นเอง
1. เต่ายักษ์กาลาปากอส
แห่งหมู่เกาะกาลาปากอส
มนุษย์หลงเข้าใจผิดกันว่าสูญพันธุ์ไปแล้วกว่า 150 ปี แต่ล่าสุด
ทีมวิจัยจากเยลมีการตรวจพบพันธุกรรมอย่างน้อยกว่า 30 ตัว
ที่มีชีวิตรอดมานานหลายปี
โดยอาศัยอยู่บริเวณที่ลาดชันภูเขาไฟทางเหนือของเกาะอิซาเบลา
ซึ่งอยู่ห่างจากถิ่นเดิมของบรรพบุรุษ 300 กิโลเมตรในเกาะฟลอรีนา
ที่พวกมันสาบสูญไปนาน