Knock Out ยกแรกก็ดราม่า! แฟน The Voice Thailand กังขา แนน-ลูกพีช ใครน่าผ่าน
ยกแรกก็มีเดือด! แฟนๆ The Voice Thailand Season 2 รุมวิพากษ์คู่ Knock Out คนเข้าตากลับไม่ผ่าน ค้านเสียงโค้ชที่ยืนยันไม่ได้เลือกที่ใครเก่งกว่า แต่มองหาคนที่เอาอยู่ในรอบ Live
เข้าสู่รอบ knock Out ของ The Voice Thailand Season 2 โดยประเดิมสัปดาห์แรกก็เจอกับศึกชนช้างทันที ไม่ว่าจะเป็นคู่ตัวพ่อ คู่ตัวแม่ ไปจนถึงคู่ตัวเอกของรายการ แม้บางคนจะบอกว่าค้านสายตากับการตัดสินใจของโค้ชในบางคู่ก็ตาม โดยกติกาของรอบนี้ ผู้เข้าแข่งขันในแต่ละทีมจะต้องมาดวลไมค์กันเองในเพลงที่ผู้เข้าแข่งขันเลือกเองซึ่งจะเป็นการวัดฝีมือของแต่ละคนอย่างแท้จริง และในรอบนี้จะไม่มีการ Steal จากทีมอื่นอีกต่อไป เท่ากับว่าหากใครไม่ได้ถูกเลือก ก็จะต้องตกรอบไปในทันทีเริ่มกันที่คู่เสียงสวรรค์จากทีมโค้ชโจอี้ บอย ฝน วารุณี จันทรศิริรังษี เลือกเพลง ภาวนา มาข่มขวัญ ปุยฝ้าย ชวัลลักษณ์ ดิเรกวัฒนานุกุล ที่นำเพลง ใจรัก มาสู้ งานนี้ไม่มีใครดีกว่าใครเพราะไร้ข้อตำหนิทั้งคู่ แต่คนที่ดูจะถือไพ่เหนือกว่าในสายตาโค้ชโจอี้ คือ ฝน ที่อินกับอารมณ์เพลงและเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเลือกมากกว่า
ทีมของ โค้ชคิ้ม จัดสองสาวดีว่าส์รุ่นเล็กประจำทีมอย่าง โอปอล์ อชิรญาณ์ ศุภลักษณ์นารี มากับเพลง สักวันหนึ่ง ดวลกับคู่ต่อกรที่มีภาษีดีมาตั้งแต่รอบแรกอย่าง ฟางข้าว ณัชชา จิตตานนท์ ที่ถูก Steal มาจากทีมโค้ชก้อง เลือกเพลง ตะวันลับฟ้า เพื่อโชว์ลูกคอแบบลูกทุ่งที่ชวนฮือฮา และ ฟางข้าว ก็สร้างความแตกต่างที่เหนือกว่า เข้าตาโค้ชคิ้มที่ตัดสินใจเลือกสาวขนตายาวคนนี้ให้ปล่อยทีเด็ดในรอบ Live ต่อไป
มาถึงคู่ฝ่ายชายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคล้ายคลึงกัน ลูกทีมโค้ชโจอี้ บอย อย่าง กิต กิตตินันท์ ชินสำราญ มาในเพลงที่เรียกทั้งความฮือฮาและความเฮฮากับเพลง ไอ้หนุ่มผมยาว มา Knock Out กับ อ้น กันณพงศ์ ธาระเขตร์ ที่ขอสู้แบบฉีกแนวเลือกขายความหวานในเสียงของตัวเองด้วยเพลง ฉันดีใจที่มีเธอ ซึ่งก็ไม่ค้านสายตาเท่าไหร่นักกับการตัดสินใจของโค้ชโจอี้ ที่ต้องยอมให้กับน้ำเสียงและลูกเล่นของกิตที่ทำได้น่าตื่นตาตื่นใจกว่า
คู่สองหนุ่มเสียงบาดอารมณ์ ลูกทีมโค้ชคิ้มที่ถนัดในเพลงสากลด้วยกันทั้งคู่ กลับต้องมาสู้กันเองจนได้ในรอบนี้ ปาล์ม นิติภูมิ ภู่กฤษณา เลือกเพลงที่เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ใช้พลังเสียง อารมณ์ และเทคนิคอย่าง Without You ทว่าคู่ปรับอย่าง นัท กฤษดา พิเศษพัฒนกุล แม้จะเลือกเพลงที่จังหวะเบากว่า แต่เพลง You've Got A Friend ในฉบับของนัทกลับเต็มปด้วยอารมณ์และความลื่นไหลเป็นธรรมชาติกว่า และคว้าตั๋วรอบ Live จากโค้ชคิ้มไปในที่สุด
สาวเสียงดีจากทีมโค้ชโจอี้ บอย ที่ถูกจับตามองตั้งแต่รอบแรกอย่าง ริมมี่ นิดา ดูวา ว่าน่าจะเป็นผู้เข้าแข่งขันทรงพลังไปจนถึงรอบ Live กลับทำได้ผิดจากที่หลายๆ คนคาดหวังไว้ในเพลง Emotion ซึ่งยังดีไม่พอที่จะสร้างความต่างอย่างโดดเด่นกว่าของ ฟ้า ฑิฆัมพร ผลิตาภรณ์ ที่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และข่มคู่แข่งอย่างริมมี่ชัดเจนด้วยเพลง Hopelessly Devoted To You สาวมาดเท่คนนี้จึงได้ไปโชว์ความเท่ต่อไปในรอบ Live ที่เชื่อว่าเธอจะเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกจับตาในรอบหน้าอย่างแน่นอน
สองหนุ่มจากทีมโค้ชคิ้ม ขอลองเลือกเพลงที่ท้าทายตัวเองทั้งคู่ โดย แบงค์ วัชระ กัณธียาภรณ์ หนุ่มโซลแจ๊ส ตัดสินใจเสี่ยงกับเพลง เล่นของสูง ที่ต้องโชว์ความเป็นร็อคที่สุดให้โค้ชได้ตัดสินใจ ขณะที่หนุ่มเสียงนุ่มชวนเคลิ้ม กอล์ฟ สุรเดช วัฒนสุนทรกุล เลือกเพลง สุดใจ เพลงเพื่อชีวิตที่เล่นกับอารมณ์อย่างมาก ซึ่งมีเสียงติงจากโค้ชคิ้มตั้งแต่ช่วงซ้อมที่ยังมองไม่เห็นถึงความเข้าถึงในอารมณ์ลึกซึ้งสุดๆ ของเพลง ซึ่งแน่นอนว่าคู่นี้เป็นคู่ที่ได้รับเสียงวิจารณ์และคำแนะนำจากโค้ชคิ้มจนถึงวินาทีสุดท้าย ซึ่งแม้จะไม่ใช่โชว์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของทั้งคู่ แต่คนที่ได้เปรียบในความพยายามและความตั้งใจ คือ แบงค์ ที่จะต้องทำการบ้านและแก้ตัวให้ดีที่สุดในรอบต่อไป
สัญญาณดราม่าบังเกิดขึ้น เมื่อโค้ชโจอี้ บอย จับเอาคู่ที่ต่างคนต่างมีแฟนประจำของตัวเองมาดวลกัน สาวน้อยมากความสามารถ วี The Voice วิโอเลต วอเทียร์ เลือกเพลง 99 Problems มาท้าชนกับคู่ปรับต่างรุ่น พละ ธนพล มหัทธนาดุลย์ ซึ่งเพิ่งจะสร้างไฮไลท์คู่จิ้นไปในรอบที่แล้ว ขายความเป็นร็อคแนวถนัดกับเพลง สบายดี ซึ่งคู่นี้มีความแตกต่างกันในหลายๆ เรื่อง และอาจเป็นความยากของ วี ที่เลือกเพลงซึ่งไกลตัวมาร้องแต่ไม่อาจสร้างเอกลักษณ์และความต่างอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ ความได้เปรียบจึงตกเป็นของ พละ ที่เลือกเพลงมาโชว์แบบใกล้ตัวจึงทำให้ดูสบายและเข้าถึงง่ายกว่า ทำให้แฟนคลับของสาววีต้องอกหักด้วยความเสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสไปได้ไกลกว่านี้
ไฮไลท์ประจำสัปดาห์อยู่ที่คู่สุดท้ายเสมอ เช่นเดียวกับสัปดาห์นี้ที่กลายเป็นโชว์ซึ่งถูกพูดถึงหลังจบรายการมากที่สุด สาวฮาและรั่ว แนน ลลิตา จึงวัฒนกิจ ที่ทิ้งทุกอย่างเพื่อเวที The Voice ยอมสลัดความรั่วของตัวเองกลายเป็นสาวมาดนิ่งเค้นอารมณ์กับเพลง ฉันไม่ใช่นางเอก เพื่อดวลกับสาวที่สร้างเซอร์ไพรส์มากที่สุด ลูกพีช รพีพร ตันตระกูล ซึ่งก็ทิ้งมาดใสแบ๊วน่ารักมาเปล่งพลังในเพลง Titanium ที่ฉีกอารมณ์อย่างสุดๆ ซึ่งผู้ชมมองว่า การฉีกแนวจากเรียบร้อยไปเป็นสาวจอมพลัง ย่อมเห็นความต่างมากกว่าการเก็บลีลาเอนเตอร์เทนมาเป็นความนิ่งขรึมแบบแนน แต่การตัดสินใจของโค้ชคิ้มนั้นให้เหตุผลในการเลือก แนน เข้าสู่รอบ Live ได้น่าสนใจว่า เป็นความยากในการทำโชว์เค้นอารมณ์จากเบื้องลึก และ แนน ก็ทำได้ตรงกับที่ใจของโค้ชต้องการมากกว่านั่นเอง
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก The Voice Thailand
Credit : http://music.sanook.com/9080/knock-out-%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%99-the-voice-thailand-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B2-%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%99-%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%8A-/