หากจะพูดถึงสัตว์เลี้ยงๆ เราๆ ท่านๆ
ก็คงจะนึกถึง "น้องหมา" และ "น้องแมว" แต่อีกหลายคนมักจะชอบสัตว์เลี้ยง
"แปลกๆ" ไม่เหมือนใคร ทีมงาน toptenthailand รวบรวมมาให้ชมใน 10 อันดับ
สัตว์เลี้ยงแปลกที่คนไทยนิยม ประจำปี 2556
หมายเหตุ* การรวบรวมเเละจัดอันดับในหัวข้อ 10 อันดับ
สัตว์เลี้ยงแปลกที่คนไทยนิยม ประจำปี 2556
เป็นการจัดอันดับอย่างไม่เป็นทางการ โดยกลุ่มอาสาสมัครของ toptenthailand
ที่เป็นร้านค้าขายสัตว์เลี้ยงแปลกหลายแห่ง โดย ทาง toptenthailand
มิได้มีเจตนาชี้นำด้วยข้อมูลนี้เเต่อย่างไร
ที่มา : www.toptenthailand.com
10. Spotted Genet
เจ้าตัวนี้อาจจะมีคนรู้จักน้อยกว่าเพื่อนๆ
ในอันดับอืนๆ แน่นอน เพราะมันยังใหม่ มันถูกนำเข้ามาจากแอฟริกา
ซึ่งมองภายนอกมันเหมือน “แมว” เรียกว่าเป็นแมวป่าก็คงไม่ผิดนัก
ราคาค่างวดก็แค่ 20,000 อัพเท่านั้นเอง
จากการเก็บสถิติตัวเลขจากร้านค้าสัตว์แปลกมีคนสนใจมากถึง 2 %
9. เต่าเสือดาว
ปัจจุบันเต่าเสือดาวแอฟริกาใต้เป็นเต่าที่
มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก
เต่าชนิดนี้สามารถเติบโตจนมีขนาดกระดองยาวได้ถึง 23 นิ้ว
เต่าเสือดาวแอฟริกาใต้มีลักษณะเฉพาะอีกประการหนึ่ง
คือผิวหนัง"ตกกระ"พวกมันจะมีจุดดำเล็กๆกระจายตามผิวหนัง
กระนี้เห็นได้ชัดในลูกเต่าที่เพิ่งฟักจากไข่และเต่าวัยอ่อนก่อนจะค่อยๆเลือน
หายไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น
เต่าเสือดาวต้องการคอกเลี้ยงที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่และควรจัดให้อยู่กลางแจ้ง
เสมอหากสภาพอากาศอำนวย
หากอยู่ตามธรรมชาติจะเป็นสัตว์สันโดษและจะก้าวร้าวอาศัยต้องอยู่ร่วมกัน
อย่างแออัด
เมื่อนำหลายตัวอยู่ด้วยกันต้องมีห้องหรือที่กำบังอย่างเพียงพอเพื่อให้พวก
มันเลี่ยงการเผชิญหน้ากับตัวอื่นๆ
และไม่ควรนำตัวผู้มาอยู่รวมกันเพราะพวกมันจะต่อสู้กันเพื่อแย่งสิทธ์ในการ
ผสมพันธุ์ ด้วยความที่มันต้องการพื้นที่เยอะ และราคาที่สูงที่สุด
บางตัวขายกันมากกว่า 250,000 บาทกันเลยทีเดียว
จากการเก็บสถิติตัวเลขจากร้านค้าสัตว์แปลกมีคนสนใจมากถึง 3 %
8. ชูก้าไกลเดอร์เผือก
เหตุที่มีคนสนใจน้อยเพราะราคามัน “สูง”
กว่าชูก้าธรรมดาหลายเท่าตัว ซึ่งราคาปกติจะขายกันที่ 25,000 บาท
จากการเก็บสถิติตัวเลขจากร้านค้าสัตว์แปลกมีคนสนใจมากถึง 5 %
7. ชินชิล่า
ชินชิลล่า
เป็นสัตว์ป่าซึ่งมีถิ่นกำเนิดในเทือกเขา Andes ในแถบอเมริกาใต้
แถบประเทศอาเจนตินา โบลิเวีย ชิลี และเปรู
ถูกมนุษย์นำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง เมื่อปี ค.ศ.1810
และสามารถเพาะขยายพันธุ์ในกรงเลี้ยงได้เป็นผลสำเร็จ เมื่อปี ค.ศ.1900
ชินชิลล่าเป็นสัตว์ฟันแทะที่มีหูกางใหญ่คล้ายหนู
ขนาดรูปร่างคล้ายกับกระต่าย ขนมีลักษณะแน่นและหนา
เพื่อป้องกันตัวเองจากอากาศหนาวเย็นบนเทือกเขาสูง
อุ้งเท้าออกแบบมาเพื่อการเดินบนแผ่นหิน มีหลากหลายสีสันเช่น สีเทา
สีเทาอ่อน สีดำ หางยาวเป็นพวงคล้ายกระรอก
ซึ่งคนทั่วไปคิดว่ามันเป็นหนูธรรมดา และราคาที่แพงไม่ใช่เล่นตกค่างวด
13,000 บาท จึงทำให้มันเป็นที่หมายปองแต่ไม่ซื้อไปเลี้ยงมากเท่าตัวอื่น
จากการเก็บสถิติตัวเลขจากร้านค้าสัตว์แปลกมีคนสนใจมากถึง 7 %
6. เฟนเน็คฟ็อกซ์
เป็นจิ้งจอกที่เล็กที่สุดในโลกแห่งทะเลทราย
ซาฮารา กินอาหารทั้งพืชและสัตว์ ดำรงชีวิตอยู่ในทะเลทรายที่แห้งแล้ง
ขนที่อุ้งเท้ามีความหนาเป็นพิเศษเพื่อให้พวกมันสามารถเดินบนทรายที่ร้อนระอุ
ได้ ขนสีน้ำตาลอมส้มช่วยให้สามารถอำพรางตัวได้ดีในทะเลทราย
วิธีการเลี้ยงสำหรับคนที่ไม่เคยเลี้ยงเฟนเน็คฟ็อกซ์มาก่อน ขั้นตอนง่ายๆ
เหมือนกับการเลี้ยงสุนัขทั่วไป มีอุปกรณ์พื้นฐานได้แก่ กรงเลี้ยง ถ้วยอาหาร
กระบอกขวดน้ำ และอาหารเม็ด อาจเสริมด้วยเนื้อไก่ต้ม
เฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายแต่ต้องอยู่ในความดูแลเพราะเป็นสุนัข
จิ้งจอกพันธุ์เล็ก มีกระดูกอ่อน
ดั้งนั้นจึงเล่นขย้ำเหมือนสุนัขทั่วไปไม่ได้เพราะอาจจะทำให้เกิดกระดูกหัก
ได้ ข้อควรระวังสำหรับเฟนเน็คฟ็อกซ์
คือเรื่องกระดูกที่หักเปราะง่ายและอาการท้องเสียเนื่องจากอาหารที่ผู้เลี้ยง
ให้ ทั้งต้องระวังเรื่องของเชื้อโรค
หากยังให้วัคซีนไม่ครบซึ่งในระยะนี้ต้องระวังเป็นพิเศษเพราะว่าเฟน
เน็คฟ็อกซ์สามารถติดโรคที่อยู่ในเมืองได้ง่าย เนื่องจากในป่าไม่ค่อยมีโรค
ไม่มีไข้หัด ไม่มีลำไส้อักเสบ ราคาค่าตัวของมันทำให้หลายๆ คนได้แต่ฝัน
เพราะคู่ละ 100,000 บาท
จากการเก็บสถิติตัวเลขจากร้านค้าสัตว์แปลกมีคนสนใจมากถึง 9 %
อาจจะเป็นเพราะมันแพงนั้นเอง
5. เมียร์แคต
จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง
ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีขนาดลำตัวเล็ก น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม
เมียร์แคตมีอุ้งเล็บที่มีลักษณะโค้งเพื่อใช้ในการขุด และมีจมูกไวมาก
มีขนสั้นสีน้ำตาล มีขนเป็นแนวเส้นขนานพาดข้ามหลัง
อาศัยและหาอาหารในโพรงดินที่ขุดขึ้น ที่คนชอบเพราะเลี้ยงง่าย เหมือนน้องหมา
สามารถฝึกให้ขับถ่ายเป็นที่ได้สบายๆ ทานอาหารน้องหมาได้
แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงตกตัวละประมาณ 30,000 บาท
จากการเก็บสถิติตัวเลขจากร้านค้าสัตว์แปลกมีคนสนใจมากถึง 11%
4. โอพอสซัม
หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า “พอสซัม”
เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมคล้ายหนู แต่มีถุงหน้าท้องเหมือนจิงโจ้
โอพอสซัมเป็นหนึ่งในสัตว์ทดลองทางการแพทย์ที่มักใช้ศึกษาหาสาเหตุการเกิดโรค
ในคน เช่น โรคมะเร็ง ความผิดปกติของระบบประสาท
ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์สามารถถอดรหัสดีเอ็นเอของโอพอสซัมได้ทั้งหมด
ถือเป็นครั้งแรกของการถอดรหัสพันธุกรรมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดที่มี
กระเป๋าหน้าท้องเช่นเดียวกับจิงโจ้และโคอาล่าได้
และมันก็เข้ามาฮิตในเมืองไทยสักพักแล้ว ด้วยรูปร่างหน้าตาที่น่ารักของมัน
ประกอบกับขนสวยนุ่มนิ่ม ราคาค่างวด 7,500 บาท
จากการเก็บสถิติตัวเลขจากร้านค้าสัตว์แปลกมีคนสนใจมากถึง 12%
3. มาโมเสท
เป็นลิงในกลุ่มลิงโลกใหม่
มีถิ่นอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ มีหางยาว หากินกลางวัน กินผลไม้
เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และเป็นลิงขนาดเล็กที่สุดในโลก
ลิงมาโมเส็จเป็นลิงที่น้ำหนักประมาณ5-7ขีด ที่คนนิยมเลี้ยงมันเพราะว่ามัน
“ฉลาด” เอามากๆ เหมือนเลี้ยงเด็กเลยทีเดียว ดังนั้นมันจึงต้องการความรัก
ความเอาใจใส่ เพราะมันก็คงจะคิดว่าเราเป็นครอบครัวของมันด้วย
ซึ่งราคาค่าตัวของมันก็ไม่ใช่ถูกๆ เสียด้วย ซึ่งตัวผู้ 30,000 บาท และ
ตัวเมีย 35,000 บาท
จากการเก็บสถิติตัวเลขจากร้านค้าสัตว์แปลกมีคนสนใจมากถึง 14 %
ของคนที่ชอบสัตว์แปลก
2. แพรี่ด็อก
แพรรีด็อกมีลักษณะโดยทั่วไป คือ ใบหูเล็ก
ดวงตากลมโต ฟันแข็งแรง ขาคู่หน้าจะมีเล็บที่แหลมคมและแข็งแรง
มีหน้าที่ขุดคุ้ยดินเพื่อหาอาหารและขุดโพรงอยู่อาศัย
ออกหาอาหารในเวลากลางวันซึ่งกินได้ทั้งพืชและสัตว์ จำพวกหญ้า ผัก
เมล็ดพืชต่าง ๆ รวมถึง แมลงและหนอน
มีพฤติกรรมทางสังคมที่มักออกมาทักทายกันเองในฝูง
ซึ่งเวลาที่เจอกันครั้งแรกจะทักทายกันด้วยการยิงฟันและแตะกันคล้ายกับการ
โอบกอดหรือจูบ จากนั้นก็จะช่วยกันทำความสะอาดขนให้กันและกัน
แพรรีด็อกมีจุดเด่นประการหนึ่งอันเป็นที่มาของชื่อ คือ
เสียงร้องที่คล้ายกับเสียงสุนัขเห่า จึงเป็นที่มาของชื่อ
ปัจจุบันเป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่เลี้ยงง่าย น่ารัก
จากการเก็บสถิติตัวเลขจากร้านค้าสัตว์แปลกมีคนสนใจมากถึง 15 %
ให้ความสนใจเจ้านี้มากกว่าตัวอื่น
1. ชูก้าไกลเดอร์
ถือเป็นสัตว์เอเลี่ยนที่ได้รับความนิยมสูง
สุด ถามกี่ร้านต่อกี่ร้านก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันหมดเลย
เหตุที่มันเป็นที่นิยมก็คงเป็นเพราะราคามันถูกที่สุด
และก็น่ารักไม่แพ้ตัวอื่นๆ เลย Sugar glider หรือ กระรอกบินออสเตรเลีย
หรือที่เรียกกันว่า จิงโจ้บิน
คือสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้องสำหรับเลี้ยงดูลูกอ่อน อยู่ในกลุ่มเดียวกับ
หมีโคอะล่า และจิงโจ้ ชูการ์ ไกลเดอร์ มีถิ่นกำเนิดในเกาะแทสเมเนีย
ประเทศออสเตรเลีย และปาปัวนิวกินี ประเทศอินโดนีเซีย
พวกมันเป็นสัตว์หากินกลางคืน กลางวันจะชอบนอน ใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนต้นไม้
เป็นสัตว์สังคมที่อยู่กันเป็นฝูง ประมาณ 6-10 ตัว
ราคาค่าตัวพวกมันส่วนใหญ่ราคาจะไม่เกิน 1,000 บาท
จากการเก็บสถิติตัวเลขจากร้านค้าสัตว์แปลกมีคนสนใจมากถึง 22 %
ถามหาเจ้าขนปุยตัวนี้