คุณคงยังไม่เคยเห็นกลุ่มเมฆที่เป็นปรากฏการณ์
ที่หาดูได้ยาก เพราะคงไม่อาจจะเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง
และสิ่งที่เราจะนำให้ทุกคนไปรู้จัก คือ
กลุ่มเมฆรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนมีลักษณะต่างๆและเกิดแสงกระทบกัน
เหมือนแมงกะพรุน ม้วนเป็นคลื่นขนาดใหญ่ จานยูเอฟโอ และอื่นๆ
ที่มา :
10. Altocumulus Castelanus
เมฆกลุ่มนี้คือจะเป็นพุ่มๆ เหมือนแมงกะพรุน เกิดจากลมที่ชื้นๆจากกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม มาเจอกับอากาศแห้งๆ ดูออกแนวน่ากลัวไปหน่อย
9. Nacreous
เมฆ
นี้เรียกได้ว่าเป็นไข่มุกแห่งเมฆาเลยทีเดียว เพราะสีนวลตาและหลากสี
ทำให้เพลินตาดี ซึ่งจะพบได้ที่แถบใกล้ๆ
ขั้วโลกเช่นสแกนดิเนเวียตอนช่วงหน้าหนาว เวลาเย็นๆ ที่แสงอาทิตย์ส่องผ่าน
เป็นเวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้นที่เราจะเห็นแบบนี้
8. Mammatus Clouds
เมฆ ลักษณะแบบเป็นกระเปาะยื่นลงมา
คนทั่วไปมักจะนึกว่าเดี๋ยวจะมีพายุเข้ามารึเปล่าหว่า จริงๆแล้ว
เมฆนี้ไม่ใช่สัญญาณเตือนอันตรายแต่อย่างใด
แต่มักเกิดขึ้นหลังจากที่พายุทอร์นาโดพ้นผ่านไปแล้วต่างหากล่ะ
7. Mushroom Clouds
เมฆแบบนี้คงไม่ใช่อะไรที่จะดีเท่าไหร่
เพราะมันเกิดจากการระเบิดอย่างแรง
ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงกับระเบิดนิวเคลียร์
อาจมีสารพิษปนเปื้อนที่ก่อให้เกิดอันตรายเมื่อสูดดมเข้าไปด้วย
6. Noctilucent Clouds
เมฆ ตามชื่อ คือ
เกิดขึ้นในช่วงกลางคืนแต่เรืองแสง ซึ่งเกิดที่บริเวณแถวๆ ใกล้ๆ
ขั้วโลกโดยแสงอาทิตย์จากอีกฟากส่องมาปะทะกับเมฆ
จึงเห็นเหมือนกับเรืองแสงได้นั่นเอง
5. Cirrus Kelvin-Helmholtz
เมฆม้วนเป็นเกลียว โอกาสเกิดขึ้นยากมาก และเกิดขึ้นเป็นเวลา 2-3 นาที แล้วจากนั้นก็หายไป ถ้าได้เห็นก็เรียกว่า เป็นความบังเอิญจริงๆ
4. Lenticular Clouds
เกิดจากหลายองค์ประกอบ ทั้งลมและความชื้น ทำให้รวมกลุ่มกลายเป็นเลนส์ได้ (แต่บางครั้งก็เหมือน UFO)
3. Roll Clouds
เป็น เมฆฝนถึงขั้นที่จะเกิดพายุ
แต่เป็นเมฆก้อนใหญ่บวกกับความดันอากาศ ความร้อนและเย็น
ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของเมฆเป็นการม้วน เลยดูเหมือนคลื่นขนาดใหญ่
2. Shelf Clouds
ลักษณะ คล้ายๆ กับอันดับ 1
แต่อันนี้ไม่ได้เป็นการม้วน แต่เป็นชั้นๆ เหมือนที่กำบัง
(บ้างก็ว่าเหมือนลิ้นชัก) และจะมาเป็นแนวตั้ง
นอกจากนี้มันยังคล้อยตัวต่ำจนน่ากลัว และเขาบอกว่าถ้าเข้าไปอยู่ในนั้นนี่
อย่างกับในหนังเลยครับ พายุกระหน่ำรวมทั้งอุณหภูมิที่ร้อนมากๆ
และการหมุนของพายุที่น่าสะพรึงกลัว
1. Stratocumulus Clouds
เมฆ แบบนี้เกิดขึ้นได้ยาก
ลักษณะมันก็เหมือนกับเอาดินน้ำมันมานวดๆ เลยออกมาเป็นเส้นยาวๆ
และเผอิญว่าเส้นยาวๆ จะแบ่งเป็นช่วงๆ ซะด้วย
ทฤษฎีว่าด้วยเรื่องของการเกาะกลุ่ม
http://www.toptenthailand.com/topten/detail/20131112114825205