เอเวอเรสต์ อนุสรณ์ร่างไร้วิญญาณของนักปีนเขา
เมื่อพูดถึงยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ทุกคนต้องนึกถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ ในเทือกเขาหิมาลัย พรมแดนประเทศเนปาลและทิเบต ซึ่งมีความสูงกว่า 8,844.43 เมตร (29,017 ฟุต) สถานที่ที่นักปีนเขาหลายต่อหลายคนใฝ่ฝันที่จะต้องพิชิตยอดเขาให้ได้ สำหรับประเทศไทยนั้น คนไทยคนแรกที่สามารถพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้ก็คือ นายวิทิตนันท์ โรจนพานิช ครีเอทีฟรายการโทรทัศน์ และผู้กำกับภาพยนตร์ นายวิทิตนันท์สามารถปีนยอดเขาเอเวอร์เรสต์สำเร็จพร้อมกับนักปีนเขาชาว เวียดนาม 3 คนแรก เมื่อ ปี พ.ศ. 2551
เรื่องราวของผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ของนักปีนเขาแต่ละท่านย่อมเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะกว่าจะปีนขึ้นไปได้นั้นต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ความท้าทาย และเรื่องเสี่ยงตายสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นพายุหิมะ หรือ ความหนาวเย็น เรื่องราวของผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ แต่วันนี้จะมาเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวอีกด้านของบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ไม่สามารถ ไปถึงจุดสูงสุดของยอดเขาได้
รูปนี้เป็นสภาพศพของนาย เดวิด ชาร์ป ที่ยังอยู่ในสภาพเดิมภายในถ้ำที่รู้จักกันในชื่อ "กรีน บู้ท" บนยอดเชาเอเวอเรสต์ เดวิดได้เดินทางมาเพื่อพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์เมื่อปี 2548 และได้หยุดพักที่ถ้ำแห่งนี้ ร่างกายของเขานั้นเริ่มแข็งตัวทำให้ไม่สามารถเคลือนไหวได้ นักปีนเขากว่า 30 คนที่ผ่านถ้ำนี้ไปคิดว่าเดวิดนั้นเสียชีวิตไปแล้ว จนกระทั่งมีบางคนได้ยินเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวดถึงได้รู้ว่าเดวิดนั้นยัง มีชีวิตอยู่ พวกเขาจึงหยุดเพื่อสอบถามอาการของเดวิด ซึ่งขณะนั้นเขาก็ยังสามารถสื่อสารและบอกชื่อตัวเองได้ หากแต่ไม่สามารถเคลื่อนไหวไปมา นักปีนเขาผู้กล้าหาญได้พยายามที่จะพาร่างของนายเดวิดออกไปให้สัมผัสกับแสง แดด แต่ไม่สามารถทำได้เลย จึงจำเป็นต้องปล่อยให้เดวิดรอความตายอยู่ในท่านั้น ปัจจุบันนี้ร่างของเดวิดยังคงอยู่ในถ้ำและเป็นเสมือนกับจุดนำทางให้กับนัก ปีนเขาคนอื่นๆ เพื่อชี้ให้เห็นว่าพวกเขาใกล้พิชิตยอดเขาแล้ว
ส่วนรูปนี้เป็นร่างของ "Green Boots : ชายบู้ทเขียว" (นักปีนเขาชาวอินเดีย เสียชีวิตเมื่อปี พศ 2539) ใกล้ๆ กับถ้ำที่นักปีนเขาทุกคนต้องผ่านเพื่อไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ กรีนบู้ท และก็เป็นจุดสำคัญอีกหนึ่งจุดเพื่อให้นักปีนเขาทราบว่าพวกเขาอยู่ใกล้กับยอด เขาแค่ไหน เมื่อปี 2539 ชายบู้ทเขียวท่านนี้แยกกับเพื่อนๆ นักปีนคนอื่นๆ และได้หาที่หลบพัก เขาได้นั่งอยู่ที่ถ้ำนั้น ร่างกายหนาวสั่นจนเสียชีวิต และลมก็ได้พัดร่างของเขาจนมาอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กับถ้ำนั้น
หญิงสาวชาวอเมริกันท่านนี้เสียชีวิต ขณะปีนเขากับเพื่อนๆ (สามีของเธอก็เสียชีวิตด้วยเช่นกัน) ขณะที่กำลังปีนเขาอยู่นั้นสามีของเธอสังเกตุเห็นว่าภรรยาตัวเองไม่ได้อยู่ใน กลุ่ม และเขาก็รู้ว่าตัวเองมีออกซิเจนเหลือในถังไม่เพียงพอที่จะกลับไปยังฐานที่ พัก แต่เขาก็เลือกจะไปตามหาภรรยาของเขา ซึ่งไม่นานเขาก็เสียชีวิตระหว่างที่ปีนลงมา เพื่อนๆ นักปีนเขาอีก 2 คนนั้นสามารถตามหาฟรานซิสได้สำเร็ต แต่การที่จะพาร่างของเธอไปด้วยนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ พวกเขาจึงอยู่กับเธอจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตเธอ
หลังจากนั้น 8 ปี พวกเขาได้กลับมาที่ยอดเขาเอเวอเรสต์อีกครั้งเพื่อตามหาศพของเธอ และก็ได้นำธงชาติสหรัฐคลุมร่างไร้วิญญาณของเธอ
นอกจากนี้ยังร่างของนักปีนเขาที่เสีย ชีวิตอีกมากมายที่มีให้เห็นตลอดระยะทางพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งแต่ละศพก็จะอยู่ในสภาพเดิมโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด
ที่มา : cavemancircus, imgur, http://home.truelife.com/detail/3038971