เคยมี "ยักษ์" อาศัยอยู่บนโลก


นักโบราณคดีขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ขนาดใหญ่โต มโหฬารในสถานที่หลายแห่งทั่วโลก เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่พิสูจน์ว่าครั้งหนึ่งในอดีตเคยมียักษ์อยู่บนโลกจริง
             เมื่อ 6 ปี ก่อน หนังสือพิมพ์นิวเนชั่น (New Nation) ของประเทศบังกลาเทศ รายงานข่าวการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ขนาดใหญ่กลางทะเลทรายบริเวณภาคตะวันออก เฉียงใต้ของประเทศซาอุดีอาระเบีย

             เจ้าหน้าที่ฝ่ายสำรวจ น้ำมันของบริษั ทอรามโค (ARAMCO) พบโครงกระดูกมนุษย์ยักษ์โดยบังเอิญ มันเป็นโครงกระดูกของมนุษย์ที่มีความสูงกว่า 10 เมตร สามารถถอนรากถอนโคนไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ได้ด้วยมือข้างเดียว  การค้นพบครั้งนี้ยืนยันตำนานการสู้รบระหว่างชนเผ่าฮูด (Hood) และ ชนเผ่าแอด (Add) ที่มีรูปร่างใหญ่โตผิดมนุษย์มนา ซึ่งปรากฏอยู่ในคัมภีร์กุรอานของชาวอิสลาม และโครงกระดูกที่พบก็คือโครงกระดูกของชนเผ่าแอดนั่นเอง

             กอง ทัพซาอุดีอาระเบียนำเฮลิคอปเตอร์มาขนย้ายโครงกระดูกยักษ์ไปเก็บรักษาในที่ ปลอดภัยและ สั่งให้ทุกคนปิดปากเงียบเป็นความลับ แต่ภาพถ่ายทางอากาศที่ทหารคนหนึ่งได้บันทึกเอาไว้ระหว่างการขนย้ายเกิดหลุด รอดออกสู่สายตาประชาชน จนกลายเป็นเรื่องที่ฮือฮากันอยู่พักหนึ่ง


             เรื่องราวทั้งหมดเงียบหายไปกับกาลเวลาจนกระทั่งในปี 2007 มีการค้นพบโครง กระดูกยักษ์อีกแห่งในประเทศอินเดีย โดยทีมงานของนักสำรวจเนชั่นแนลจีโอกราฟิค ประจำอินเดีย กลายเป็นหลักฐานสำคัญที่ตอกย้ำว่าครั้งหนึ่งในอดีตเคยมียักษ์เพ่นพ่านอยู่บน โลกมนุษย์               

             ก่อนที่ เรื่องราวจะถูกลืมเลือนหายไปจากความทรงจำ ได้มีคนขุดคุ้ยเรื่องนี้ขึ้นมา รวบรวมเรื่องราวทำเป็นจดหมายเวียนส่งต่อๆกันไปตามฟอร์เวิร์ดเมล์ ทำให้ข่าวการพบมนุษย์ยักษ์กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง

ภาพถ่ายจากทางอากาศการ ขนย้ายโครงกระดูกมนุษย์ยักษ์ในซาอุดีอาระเบียนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นภาพการสำรวจโครงกระดูกไดโนเสาร์ บริเวณอุทยานแห่งชาติไฮด์ (Hyde) ในรัฐนิวยอร์ก เมื่อวันที่16 กันยายน 2000 ภาพ นี้ได้ถูกนำไปตบแต่งซ้อนภาพโครงกระดูกมนุษย์ยักษ์ใส่ลงไปแทนที่โครง กระดูกไดโนเสาร์ โดยนักตบแต่งคนหนึ่ง เพื่อล้อเลียนในเว็บไซต์ฝึกใช้โปรแกรมตบแต่งภาพชื่อดังWorth1000
            ต่อมาได้มีคนมือบอน กินอิ่มไม่มีอะไรทำ นำภาพนี้เขียนบทความประกอบ นำบันทึกของนบีฮูดมาอ้างอิงสร้างความน่าเชื่อถือ แล้วร่อนกระจายไปตามเว็บไซต์ต่างๆ จนกลายเป็นข่าวฮือฮาในปี 2004

             ต่อมาในปี 2007 คนมือบอนอีกคนก็ได้นำภาพตบแต่งลักษณะเดียวกันมาใช้ แต่คราวนี้อ้างชื่อองค์กรระดับโลก เนชั่นแนลจีโอกราฟิค เพื่อ สร้างความน่าเชื่อถือ คนส่วนใหญ่พออ่านข่าวก็เชื่อโดยทันที ไม่ได้คิดที่จะค้นคว้าหาความจริงว่าเคยมีนักสำรวจค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ ยักษ์จริงหรือไม่ ทั้งๆที่เนชั่นแนลจีโอกราฟิคก็มีเว็บไซต์ให้ค้นหาข้อมูล

            ข่าว คราวเงียบหายไปพักใหญ่ จนกระทั่งเรื่องราววการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ยักษ์ก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับภาพตบ แต่งขุดใหม่หลายภาพ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่นำมาจากเว็บไซต์ Worth1000ทั้งสิ้น